คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
Faculty of Law Ramkhamhaeng University
คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เป็นส่วนราชการไทยระดับคณะวิชา
สังกัดมหาวิทยาลัยรามคำแหง กระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดตั้งขึ้นพร้อมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงอาศัยข้อบังคับและพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง
มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการเมืองการปกครองของประเทศไทยในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ได้ตอบสนองความต้องการของคนในสังคมด้วยการเปิดโอกาสทางการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้อย่างมีคุณธรรมเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ปัจจุบันคงเปิดดำเนินการและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลตอบรับที่ดีและการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
รับสมัครนักศึกษาปริญญาตรี
ภาคพิเศษวิทยาเขตบางนา
เรียนวันอังคาร-พฤหัส
เปิดรับสมัครตั้งแต่
วันที่ 2 มิถุนายน
- 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
รับสมัครนักศึกษาปริญญาตรี ภาคพิเศษ
เสาร์-อาทิตย์ เรียน ราม1
รุ่นที่ 10
โครงการหลักสูตรปริญญานิติศาสตรบัณฑิต
ภาคพิเศษ (เรียนเสาร์ - อาทิตย์)
เปิดรับสมัครนักศึกษาปริญญาตรี ภาคพิเศษเสาร์-อาทิตย์ รุ่นที่ 10
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2558
สถานที่เรียน
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพมหานคร
การจำหน่ายใบสมัครและการรับสมัคร
จำหน่ายใบสมัคร
วันที่ 6 – 31 พ.ค. 2558
(เว้นวันที่ 13 พ.ค. 2558)
วันรับสมัคร
วันที่ 6 – 15 มิ.ย. 2558
สถานที่จำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร
จำหน่ายใบสมัคร และรับสมัคร ห้อง 1101 ชั้น 1 อาคาร 1 คณะ
นิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมากบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
จำนวนนักศึกษาที่เปิดรับ
เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษา รุ่นที่ 10 จำนวน 120 คน
วิธีการสมัคร
1. การสมัครด้วยตนเองที่มหาวิทยลัยรามคำแหง
ขั้นตอนและวิธีการสมัครเป็นนักศึกษาด้วยตนเองที่มหาวิทยาลัย
อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าลงทะเบียนเรียน และค่าบำรุงการศึกษาชั้นปริญญาตรี
อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าลงทะเบียนเรียน และค่าบำรุงการศึกษาชั้นปริญญาตรี
1. ค่าลงทะเบียนเรียนเป็นรายหน่วยกิตๆ
ละ
|
25 บาท
|
2. ค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา
|
60 บาท
|
3. ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา
|
500 บาท
|
4. ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา
|
300 บาท
|
5. ค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหงภาคละ
|
100 บาท
|
6. ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย
|
300 บาท
|
7. ค่าเทียบโอนหน่วยกิต
7.1 หน่วยกิตสะสมเดิมจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
(ทุกกรณี) หน่วยกิตละ
7.2 หน่วยกิตอนุปริญญาขึ้นไปจากสถาบันอุดมศึกษาอื่น
หน่วยกิตละ
|
50 บาท
100 บาท
|
การชำระเงินสำหรับผู้สมัครเข้าเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี
(กรณีสมัครด้วยตนเอง)
จำนวนหน่วยกิต
|
ค่าลงทะเบียน
|
ค่าบำรุง
|
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
|
ค่าบัตรนักศึกษา
|
ค่าขึ้นทะเบียนนักศึกษา
|
ค่าสมาชิกข่าวรามฯ
|
รวมเงิน
|
1
|
25
|
300
|
500
|
60
|
300
|
100
|
1285
|
9
|
225
|
300
|
500
|
60
|
300
|
100
|
7485
|
12
|
300
|
300
|
500
|
60
|
300
|
100
|
1560
|
18
|
450
|
300
|
500
|
60
|
300
|
100
|
1710
|
24
|
600
|
300
|
500
|
60
|
300
|
100
|
1860
|
หลักสูตรการศึกษา
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จัดการศึกษาโดยใช้แบบการศึกษาเปิดแบบตลาดวิชา
ให้โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ทุกคนที่ใฝ่หาความรู้ เปิดทำการเรียนการสอนใน
3 หลักสูตร
ดังต่อไปนี้
ปริญญาตรี
|
ปริญญาโท
|
ปริญญาเอก
|
หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต (นบ.)
|
หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (นม.)
|
หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (นด.)
|
หลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต
คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
1.
|
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 140 หน่วยกิต
|
2.
|
โครงสร้างหลักสูตรมีดังนี้
|
|||
หมวดวิชา
|
จำนวนหน่วยกิต
|
จำนวนร้อยละ
|
||
17.2.1 หมวดวิชาศึกษาทั่วไป
|
31
|
22.14
|
||
17.2.2 หมวดวิชาเฉพาะ
|
103
|
73.57
|
||
�
|
17.2.2.1 กลุ่มวิชาบังคับ
|
94
|
(67.14)
|
|
�
|
17.2.2.2 กลุ่มวิชาเลือก
|
9
|
(6.43)
|
|
17.2.3 หมวดวิชาเลือกเสรี
|
6
|
4.29
|
||
รวมจำนวนหน่วยกิต
|
140
|
100
|
||
ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
ปรัชญา
ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ด้านกฎหมายและมีคุณธรรม
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1.
|
เพื่อให้การผลิตบัณฑิตมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษา
ระดับอุดมศึกษาของชาติ
อีกทั้งสอดคล้องกับปรัชญาของสถาบันอุดมศึกษา
และมาตรฐานทางวิชาการและวิชาชีพ
ฒนาการศึกษา
|
2.
|
เพื่อให้บัณฑิตมีความรอบรู้กฎหมาย
ทั้งในภาคทฤษฎีและในภาคปฏิบัติ
|
3.
|
เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางกฎหมายในอันที่จะนําไปสู่การผลิตบัณฑิตทาง
นิติศาสตร์ที่มีความเชี่ยวิชา
|
4.
|
เพื่อตอบสนองความต้องการของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องการรับ
ผู้มีความรู้ทางกฎหมายเฉพาะด้าน
เข้าทํางานเมื่อสําเร็จการศึกษา
|
5.
|
เพื่อผลิตนักกฎหมายที่มีคุณธรรม
จริยธรรม และมีจิตสํานึกสาธารณะ
|
จบแล้วไปทำงานอะไรได้บ้าง?
ส่วนใหญ่บัณฑิตนิติศาสตร์จะไปทางสายราชการ
ถ้าเป็นสายตรงเป้าหมายคือ ท่านผู้พิพากษา อัยการ
เป็นอาชีพที่มีเกียรติมาก
รายได้ดี แต่ก็ยากมากเช่นกัน เพราะจบแล้วจะต้องไปสอบเนติบัณฑิต
หรือที่เรียกว่าว่าสอบเนฯที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหินและโหดมาก
แต่ละปีจะมีผู้สอบผ่านประมาณ 7% เท่านั้น รอให้อายุครบยี่สิบห้า
พร้อมคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการตุลาการกำหนด เช่น เคยว่าความมาแล้วกี่คดี
เรียนปริญญาโทมาแล้วกี่ปีวิชาอะไรบ้าง จึงสามารถไปสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา
หรืออัยการผู้ช่วย ซึ่งคนที่สอบได้มี
ประมาณ 1 - 3% ของคนที่ผ่านเนติบัณฑิตเท่านั้น
คนที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าได้ต้องตั้งใจอย่างแรงกล้าและต้องทุ่มเทแล้วยังเป็น ทนายความ
ซึ่งต้องสอบใบอนุญาตว่าความจากสภาทนายความก่อน และยังสามารถเป็นนิติกร
ฝ่ายกฎหมายภายในบริษัทต่างๆ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย นักการเมือง
ผู้ว่าราชการจังหวัด
นายอำเภอ ปลัด ตำรวจ และอาชีพอื่นๆ ที่ต้องใช้ความรู้ทาง
กฎหมาย
ทั้งในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน